top of page

Marketing กับ การเมือง


มีพี่ที่มหาลัย Tag มาถามความเห็นว่า "พรรคอื่นควรใช้ #ฟ้ารักพ่อ มาเป็นลูกเล่นในการเสียงไหม?" เพราะแกเห็นว่าการใช้ฟ้ารักพ่อเป็นการเชื่อมถึงคุณธนาธร

เห็นคำถามนี้น่าสนใจดีเลยขอมาแชร์ความเห็นในเพจนี้นะครับ (ขอตอบในเชิงการตลาดแบบมีการเมืองให้น้อยที่สุดนะครับ)

จากประสบการณ์การทำ Marketing คิดว่าวัตถุประสงค์ของการทำการตลาดน่าจะมี 3 อย่างหลักๆ คือ "ทำให้ว้าว", "ทำเพื่อพัฒนาแก่นของสิ่งที่ทำ" และ "ทำเพราะมันเป็น A Must ที่ต้องทำ"

การทำให้ "ว้าว"ส่วนใหญ่จะต้องการสิ่งที่ "แปลก", "ใหม่", "ใหญ่", "ดัง" ส่วนการทำการตลาดแบบ "A Must" ส่วนใหญ่จะทำตามกระแสหรือมันเป็นสิ่งที่คู่แข่งทำเราเลยต้องทำตาม เช่น ช่วงปีที่ผ่านมามีกระแสบุพเพสันนิวาสดัง ทำให้ทุกแบรนด์ต้องเกาะกระแสนี้ ตั้งแต่อาหารยันเสื้อผ้า เพราะมันเป็น Interest ที่มีขนาดใหญ่พอที่จะ Catch Attention ผู้บริโภคได้

ช่วงนี้ #ฟ้ารักพ่อ เป็นกระแส พรรคอื่นเลยน่าจะเล่นตามให้เป็นสีสัน อย่างไรก็ตามจากความเห็นคิดว่า "ถ้าสมองผู้บริโภคถูกผูกกับฟ้ารักพ่อคือ คุณธนาธรแลัว การที่คนอื่นมาขยี้ฟ้ารักพ่อ น่าจะทำให้คนจำนวนไม่น้อยคิดถึงคุณธนาธรอยู่ดี" แต่ถ้า สมองผู้บริโภคยังมีพื้นที่ว่าง แคมเปญนี้น่าจะเป็นสีสันไม่น้อยและทำให้พรรคอื่นที่เกาะกระแสนี้ได้พื้นที่สื่อไป

ในเชิง Game Theory ถ้าคุณธนาธรเล่นเกมส์นี้แบบ Agressive หรือ Corporatative คุณธนาธรก็จะได้ประโยชน์จากการที่พรรคอื่นเข้ามาเล่นด้วยอยู่ดี

ในเชิง Marketing ถ้าเราเป็นพรรคอื่น เราคงเกาะกระแสไปช่วงสั้นๆมากๆให้ได้ Free Media และพยายามไม่ขยี้ฟ้ารักพ่ออีก เพราะว่าไม่เกิด "Differentiation" แต่ทำให้เกิด "me too" โดยที่พยายามหา Story ใหม่ที่ยังไม่มีพรรคใดๆได้เปรียบมา Communicate ใหม่

ปล. ขออนุญาตภาพต้นเรื่องจาก Workpoint News นะครับ Question Credit: Panatpong Hutacharoen

bottom of page