"ความสมบูรณ์แบบเป็นสิ่งที่หลายคนปรารถนา แต่บางครั้งมันจะมาพร้อมความเจ็บปวด"
การเป็นมนุษย์ "เป๊ะ" นั้นมีข้อดีอยู่ แต่ข้อเสียของการเป็นคน "เป๊ะ" นั้นมีไม่น้อยเลยทีเดียว
เพราะคนที่นิยมความสมบูรณ์แบบ ก็มักจะตามมาด้วยอาการเครียดและกดดันตัวเอง
และเมื่อมีสถานการณ์รอบข้างไม่เอื้ออำนวยก็อาจจะ push ตัวเองจนขีดสุดทั้งๆที่ จิตใจ
และ ร่างกายกำลังถูก Burnout โดยที่ไม่รู้ตัว
แอดน่าจะเข้าข่ายเป็น Perfectionist (แต่ก่อนน่าจะเป็นเยอะ ตอนนี้น่าจะน้อยลงแล้ว)
ซึ่งข้อดีมันก็มี แต่ก็รู้ซึ้งถึงข้อเสียอย่างดีเยี่ยมเช่นกัน
แอดเลยลองหาวิธีแก้ จากการอ่านหนังสือและทดลองนี่แหละ
ตอนแรกแอดใช้หลักการ Minimalist จะได้โฟกัสความเป็น Perfectionist ให้น้อยเรื่องสิ่งที่สุด
(จะได้เครียดเรื่องน้อยที่สุด) แต่มันก็ยังแก้ได้แบบไม่สุด
หลังๆเลยลองศึกษาศาสตร์อื่นมากขึ้น เลยมาเจอศาสตร์ Wabisabi
โดยย่อแล้วหลักการนี้มีสามอย่างคือ
1. ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ
2. ไม่มีอะไรเสร็จสมบูรณ์
3. ไม่มีอะไรจีรัง
สุดท้าย Wabisabi น่าจะแก้ความเป็น Perfectionist ได้ เพราะ Core ของมันขัดแย้งกัน คือ
"การที่เราโอเคในความไม่สมบูรณ์แบบ (Wabisabi)" VS "การที่เราเลือกที่จะสมบูรณ์แบบ (Perfectionist) "
แต่บางทีการที่เราเลือกที่ไม่สมบูรณ์แบบ มันก็ทำให้ข้อดีของความสมบูรณ์แบบหายไป 😂
บางทีถ้าจะคง Value บางอย่างไว้ อาจจะต้องMix หลายศาสตร์เข้าหากัน
เช่น เป็น Perfectionist แบบ Minimalist โดยเข้าใจแก่น Wabisabi
Commenti