ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจะเห็นว่า กระแสไอศกรีม Nama Dark Chocolate Brownies ค่อนข้างดี
สังเกตุได้จากผลตอบรับคือไอศกรีมขายหมดเกือบตลอด จนลูกค้าต่างพากันบ่นว่าไปทีไรก็หมดทุกที
กลยุทธ์ต่างๆที่แอดเคยเขียนไว้ในเพจไม่ว่าจะเป็นการใช้
- influencer marketing: เน้นให้เพจดังๆโพสต์โฆษณาสินค้า เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น
- word of mouth: ผลจากโพสต์ของ influencer ด้านบน ก็ทำให้ลูกเพจต่างๆพากันเข้ามาคอมเม้นต์คุยกันจนเกิดเป็นกระแส ปากต่อปาก แพร่กระจายออกไป + คำพูดของคนธรรมดาใกล้ตัว น่าเชื่อถือกว่าคำโฆษณาจาก influencer
- capture market trend: เน้น keyword "ความเข้มข้น" "ความขม"(ของ dark choc) มากกว่าความหวาน ซึ่งตรงกับกระแสที่วัยรุ่นปัจจุบันชอบทานของหวานที่มีรสชาติหวานน้อย
- scarcity: ปล่อยให้สินค้าในตลาดมีน้อย ให้เกิดการขาดตลาดเป็นระยะเวลาสั้นๆ เพื่อทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าสินค้าเป็นที่ต้องการมากจนหาไม่ได้ จน "ถ้าหาเจอต้องรีบซื้อ/ซื้อเก็บไว้เผื่อกินวันหลัง" ลดกระบวนการตัดสินใจ + เพิ่มยอดซื้อมากกว่าความต้องการ
จะเห็นว่าทฤษฎีต่างๆที่ใช้กันมานาน ใช้กันมากี่รอบต่อกี่รอ ไม่ว่าจะนานแค่ไหน บ่อยแค่ไหน แต่ก็ไม่เก่าเกิน ยังสามารถหยิบมาใช้ได้เรื่อยๆและได้ผลเป็นอย่างดี
แม้กระทั่งตัวแอดจะรู้ว่าเป็นเทคนิคทางการตลาด แต่สุดท้ายก็ต้องพ่ายแพ้ ขอซื้อมาลองให้ได้รู้ว่ามันดีจริงๆอย่างที่เค้าว่ากันปากต่อปากหรือเปล่า
(ส่วนตัวชอบในความเข้มข้น และขมของ dark choc แต่ก็รู้สึกว่าความหวาน ก็ไม่ได้น้อยกว่าไอศกรีมตัวอื่นๆ เพียงแค่มีความขมมาช่วยตัดความหวานเลี่ยนเฉยๆครับ)
Written by Tanan Udomcharn
Comentários