แอดเชื่อว่าลูกเพจหลายคนมีน้ำหอมมากกว่า 1 ขวด
และ ส่วนใหญ่ซื้อมาแล้วจะใช้ไม่ค่อยหมด
ยกตัวอย่างพ่อแอดก็เป็นคนชอบซื้อน้ำหอม ซึ่งแต่ละขวด
ก็จะใช้ไป 30-40% แล้วก็เปิดขวดใหม่
อย่างไรก็ตามถึงแม้คนส่วนใหญ่จะมีน้ำหอมหลายขวด
แต่ปกติแล้วเวลาคนซื้อน้ำหอมจะซื้อแค่ทีละขวด
หรือทีละเซต (เพราะมันตอบสนอง Want' ในอารมณ์ชั่ววูบไปแล้ว)
แบรนด์น้ำหอมส่วนใหญ่จะทำการตลาดด้วย 'อารมณ์' มากกว่า 'เหตุผล' เพราะมันสามารถทำให้คนยอมจ่ายสินค้าในราคาแพงได้ (คนมักจะจ่ายเงินด้วยความรวดเร็วด้วย 'อารมณ์' มากกว่า 'เหตุผล' ประกอบกับความหอมเป็นเรื่อง Subjective ซึ่งถึงแม้วัตถุดิบจะดีแค่ไหน แต่ถ้าไม่หอมก็คือไม่หอม)
และพนักงานขายจะปิดการขายตั้งแต่ตรงนั้นเลย เพราะคนดมกลิ่นแล้ว
ถึงแม้ชอบแต่คนจะลืม และจะลองอีกครั้งไม่ได้ถ้าไม่อยู่ตรงนั้น
มีน้ำหอม Brand นึงชื่อ Jo Malone (เป็นแบรนด์ที่ไม่เคยลดราคาในอังกฤษ
ถ้าจะซื้อไปซื้อที่ Heathrow จะถูกที่สุดเหลือประมาณ 72 ปอนด์ ต่อ 100ml
ถ้าไปซื้อที่ Outlet ก็จะได้กลิ่นที่ไม่หอม) แบรนด์นี้เล่นการตลาด
ว่า 'น้ำหอมต้องซื้อมาผสมกันถึงจะได้กลิ่นใหม่เป็นกลิ่นเฉพาะของตัวเอง'
เท่ากับว่าถ้าคนจะซื้อต้องเสียตังถึง 144 ปอนด์ (ถึงจะได้น้ำหอมกลิ่นผสม)
ซึ่งถ้ามองด้วยโลจิกมันอาจจะเทียบเท่ากับกลิ่นๆ นึงของน้ำหอมขวดเดียว
(ซื้อขวดเดียวไม่ต้องผสมก็ได้)
อย่างไรก็ตามด้วยการที่มันผสมกันแล้วได้กลิ่นใหม่ เท่ากับว่าแบรนด์นี้ เป็นแบรนด์ที่ Playful และมี Variations ให้เล่นเยอะ ประกอบกับเวลาทำ Personalisation แล้วดูมี Story มากขึ้น
โดย: Kenny Kanawat
Comments