ผมเห็นผู้ชายมีกล้ามใส่กางเกงในตัวเดียวยืนแจกโบว์ชัวร์ให้กับร้านเครื่องสำอางร้านหนึ่งในงาน Olympia Beauty ที่ Kensington London (ถ้าเป็นเมืองไทยการตลาดแบบนี้คงโดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก) ผมเคยเห็นการตลาดแบบนี้มาแล้วกับแบรนด์ Abercrombie & Fitch ที่ให้ผู้ชายเปลือยท่อนบน มายืนอยู่ในShopที่Singaporeจาก Facebookของพี่สาวผมเอง
เนื่องจากในงานEventนี้มีผู้ประกอบการค่อนข้างมาก ซึ่งแต่ละร้านก็ต้องการดึงลูกค้าเข้าไปที่บูธตัวเองให้ได้มากที่สุด
จากการเห็นครั้งนี้ทำให้ผมคิดถึงทฤษฎี Arousal ที่ใช้บ่อยใน Consumer Behaviour และวงการ Media ทฤษฎีนี้คือ ถ้าผู้บริโภคเจอสิ่งเร้าอยู่ในระดับที่ไม่เข้มข้นพอ Performance ของผู้บริโภคก็จะต่ำ (Under Arousal) เพราะสิ่งเร้านี้ไม่สามารถดึงดูดความสนใจให้กับผู้บริโภคได้ อย่างไรก็ตามถ้าสิ่งเร้ามีมากเกินไป Performance ก็จะต่ำเช่นกัน (Over Arousal) เนื่องจากผู้บริโภคจะเกิด Panic และความเครียด (Stress Zone) ดังนั้นวิธีที่จะทำให้ Performance ดีที่สุดคือการทำ Arousal ให้พอดี
จากการที่ผมได้ยืนสังเกตุอยู่สักพัก ปรากฏว่ามีผู้หญิงจำนวนมากที่ไม่ได้สนใจผู้ชายคนนั้น ถ้าผู้ชายคนนั้นไม่เร้าใจพอ หรือผู้หญิงจะเกิดการPanicจากการเดินเข้าไปหา สงสัยวิธีการเรียกลูกค้าแบบนี้จะไม่เวิก
อย่างไรก็ตามเนื่องจากLevel of Arousal ของแต่ละคนไม่เท่ากัน น่าจะมีกลุ่มผู้บริโภคที่Level of Arousal พอดีกับการแต่งกายของผู้ชายคนนั้นและผู้ชายคนนั้นอาจจะสร้าง Interest และเปลี่ยนให้เป็น Action ก็เป็นได้
ทฤษฎี: Arousal (สิ่งเร้า)