top of page

POKEMON GO X การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย


มีอาชีพนึงที่กำลังฮิตอยู่ที่ประเทศไทยในช่วงนี้โดยเฉพาะกลุ่มGenYลงมา นั่นก็คือการเป็น ‘Pokemon Trainer’ สังเกตุได้จากในFacebook Feed จะมีคนโพสเกี่ยวกับโปเกมอนประมาณ10-20%

‘Pokemon Go’ เป็นเกมส์ที่ทำให้ผู้เล่นได้แสดงบทบาทเปรียบเสมือนได้เป็นPokemon Trainerผ่านระบบ GPS Signal (จะต้องเดินด้วยตัวเองถึงจะหาPokemonเจอ ทำให้รู้สึกได้ผจญภัยจริงๆ) และตัวเกมส์ก็ได้ทำให้ดูสมจริงมากขึ้น โดยที่สถานที่เกิดของPokemonในแต่ละธาตุนั้นจะมีสถานที่เกิดต่างกันตามสภาพแวดล้อมของสิ่งรอบข้าง เช่น แถวในทุ่งหญ้าจะมีแนวโน้มที่จะเจอหนอน(Weedle) หรือ ในเมืองจะมีแนวโน้มที่จะเจอหนู (Rattata) เป็น

ถึงแม้Pokemon GoในปัจจุบันยังมีตัวPokemonให้จับไม่มาก แต่ในอนาคตตัวเกมส์น่าจะมีการพัฒนามากขึ้น, มีเนื้อเรื่องมากให้เล่นขึ้น และGraphicดูสวยงามมากขึ้น

นอกจากความสนุกแล้ว Pokemon Go ยังมีศักยภาพที่จะทำการCollaborateกับDimensionsต่างๆในการเพิ่มมูลค่าให้ กับสิ่งที่เราผูกด้วย เช่น การส่งเสริมท่องเที่ยว หรือ แม้แต่Tacticsการตลาดต่างๆ

ยกตัวอย่างเช่น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสามารถเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวในแต่ละท้องที่ได้ โดยให้สถานที่นั้นเป็นสถานที่เกิดPokemonในตำนาน เช่น ถ้าจะจับมิว (Mew) ต้องมาถ้ำมรกตจังหวัดตรังเท่านั้น

ในช่วงที่Pokemon Goยังเป็นกระแส ในช่วงที่ผ่านมาเริ่มมีแบรนด์ต่างๆพยายามที่จะผูกกระแส ‘Pokemon Go’ เข้ามาเพื่อช่วยในการโปรโมตสินค้าของตัวเอง (เช่น Moon taste ได้ทำการโปรโมตสินค้าตัวเองผ่านGimmick ‘มาจับลงท้อง’ หรือ ทางบริษัท Haupcar รถเช่ารายชั่วโมง ได้โปรโมต ‘Marketing Content’ เกี่ยวกับสถานที่จับPokemonยอดฮิต เป็นต้น)

นอกจากนี้แล้วยังมีTacticทางการตลาดอีกมากมายที่ทางบริษัท True สามารถจะเอามาเล่นได้ในอนาคตอันใกล้ เช่น เป็นลูกค้าTrueได้ไอเท็มพิเศษ เป็นต้น

การที่มีคนโพส ‘Pokemon Go’ ลงในFacebookบ่อยๆนั้น จะเป็นการกระตุ้นให้คนที่ไม่เคยเล่นมาลองโหลดเล่นมากขึ้น (Brand salienceแข็งแรง: สินค้ามีBrand Awarenessอยู่ตลอดเวลา) และยิ่งเราเห็นคนรู้จักเล่นมากเท่าไร เรายิ่งก็อยากเล่น หรือ อยากมีส่วนร่วมกับมันมากเท่านั้น (อยากเป็นส่วนหนึงในกลุ่มสังคม) สุดท้ายนี้เราลองมาดูกันว่ากระแสนี้จะอยู่ได้นานมากน้อยเท่าไรกัน

bottom of page