เมื่อวันสองวันที่ผ่านมามีกระแสนาฬิกาหรู OMEGA ไป Collab กับ Swatch
ซึ่งทำให้นาฬิกา Swatch กลับมาเป็นที่ได้รับความสนใจอีกครั้ง
มี Case Study ที่เด็ก Business School ชอบเรียนว่า
จุดกำเนิดของ Swatch มาจากการที่ทางบริษัทผลิตนาฬิกาของสวิสเซอร์แลนด์
ต้องการหาช่องว่างทางการตลาดเพื่อให้แข่งกับ Casio ของญี่ปุ่น (เน้นราคา และ Function) ได้
โดยที่ไม่ไปตีกับตัวตลาดนาฬิกาสวิส Luxury (ที่เน้นราคาสูงและ คุณภาพ)
เลยเกิดเป็นแบรนด์ Swatch ขึ้นมา (นาฬิกาที่เน้นFashion)
ตลาดนาฬิกา Luxury ปีที่ผ่านมาราคาดีดขึ้นมาก จาก Supply ที่ลดลง
ทำให้คนที่ถืออยู่บางกลุ่มสามารถเก็งกำไรได้
(ถึงแม้ราคาจะเริ่มผ่อนลงในช่วงนี้ แต่มันทำให้แบรนด์นาฬิกาหรูดู Sexy ขึ้น)
ซึ่งมันอาจจะทำให้ใครหลายคน คิดว่าราคา OMEGA x Swatch จะดีดขึ้น
(ในกรณีนี้มันจะเป็นจริง ถ้า Demand > Supply มาก หรือ มันเป็นรุ่น Limited Edition)
แต่ถ้า Swatch ไม่ได้จำกัดปริมาณในรุ่นนึ้ น่าจะเป็นการยากที่ราคาจะดีดขึ้น
หลายๆคนอาจจะตามหาซื้อเพราะว่า "สามารถบ่งบอกตัวตนหลักแสนได้ในนาฬิกาไม่ถึงหมื่น"
แต่ถ้าปริมาณนาฬิการุ่นนี้ในตลาดมันเยอะมาก มันจะทำให้ Envy Zone ของความ Luxury ในสินค้านี้หายไป
แน่นอนว่าการ Co-Brand ครั้งนี้ จะมีคนที่ทั้งเห็นด้วยและ ไม่เห็นด้วย
แต่คิดว่าการ Co-brand ครั้งนี้ Swatch น่าจะได้ประโยชน์ใน Sales จากการอาศัย
ความ Sexy ของ OMEGA แต่ไม่แน่ใจว่าจะทำให้ตัวนาฬิกาต้นแบบ OMEGA
ดูหรูน้อยลงรึเปล่า นอกจาก Brand Awareness ที่ได้รับ
Swatch Brand Positioning คือ นาฬิกาแฟชั่น (ถ้าคนซื้อว่ามันสวยก็โอเค)
แต่ที่แน่ๆ คนคิดแคมเปญนี้สร้าง Impact ได้ (แต่ไม่แน่ใจมันจะไป Dilute แบรนด์ OMEGAในระยะยาวรึเปล่า) ..
ที่แน่ๆ ตอนนี้ Bloomberg พาดหัวว่า
"Low-Priced Omega Speedmaster Prompts Global Swatch Store Chaos"