'รีวิวแย่' ช่วยให้ขายออกได้อย่างไร?

ห่างหายกันไปนานกับการเขียนเนื้อหาเชิงกลยุทธ์การตลาด ที่เล่นกับ "จิตวิทยา" ความคิด ความรู้สึกของผู้บริโภค ในวันนี้แอดจึงจะมาเขียนเรื่องการรีวิว ซึ่งน่าจะตรงกับพฤติกรรมของพวกเราเวลาซื้อของกันไม่น้อย

หลายคนคิดว่าเวลาจะขายสินค้าให้ออก สินค้าของตนจะต้องได้รับการรีวิวเยอะๆ รีวิวดีๆ จึงจะขายออก ถ้ามีรีวิวแย่ๆจะรู้สึกเป็นเดือดเป็นร้อน กลัวคนจะไม่ซื้อสินค้า ซึ่งจริงๆมันก็เป็นเช่นนั้นแล่ะ แต่ "รีวิวแย่" อาจจะช่วยให้ขายสินค้าออกได้ด้วย ถ้าเป็นรีวิวแย่ที่อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม

"รีวิวแย่" มีปริมาณที่เหมาะสมด้วยหรอ? แล้วมันช่วยยังไงล่ะ?

การจะตอบคำถามนี้ได้ต้องสังเกตุพฤติกรรมตัวเราเอง เวลาเราอ่านรีวิวก่อนว่าเรามองหาอะไรบ้าง

---

1. เรามองหารีวิวที่คะแนนค่อนข้างสูง ถ้า 3 อาจจะน้อยไป 4 กำลังดี 4.8 เยี่ยมเลย แต่ถ้า 5... เรารู้สึกแปลกๆหรือเปล่า มันดีเกินไปจนแปลกๆไหม หรือคนรีวิวน้อย หรือปั๊มรีวิวด้วย fake account หรือเปล่า? มีผลวิจัยไม่น้อยที่ระบุว่าคนเลือกซื้อสินค้าที่ได้คะแนนรีวิว 4.8 มากกว่า 5 คะแนน เนื่องจากคะแนนเต็มแลดูเป็นไปได้ยาก หรือ ดูเหมือนมีข้อเสียอะไรบางอย่างที่แอบซ่อนอยู่

2. นอกจากคนมองหาสินค้าที่คะแนนรีวิวสูงแล้ว

คนยังมองหา "คอมเม้นที่ให้ 1 - 2 คะแนน ด้วย

เพราะ คนเราไม่ได้อยากรู้ว่าสินค้านั้นดียังไง

(จริงๆเรารู้ตั้งแต่เราเข้าไปหาสินค้านั้นๆแล้ว)

แต่สิ่งที่เราอยากรู้จากการอ่านรีวิวคือ "แล้วมันมีข้อเสียอะไรที่ฉันยังไม่รู้บ้างล่ะ?" ต่างหาก

ด้วยพฤติกรรมและกระบวนการคิด 2 ข้อดังกล่าว

สินค้าที่มักขายดีมักเป็นสินค้าที่ได้รับคะแนนรีวิวเยอะ

แต่ไม่สมบูรณ์แบบ จะต้องมี "รีวิวแย่" ด้วย แต่รีวิวแย่ที่ว่านี้

จะต้องเป็นข้อเสียของสินค้าที่ผู้บริโภครู้สึกว่ายอมรับได้

ซึ่งบางแบรนด์ถึงกับตั้งใจให้มีรีวิว 1 - 2 คะแนนด้วยตัวเองด้วยซ้ำ

ทั้งนี้ก็เพื่อให้ผู้บริโภครู้สึกว่า "ฉันรู้ครบทั้งข้อดีข้อเสียทั้งหมดของสินค้าชิ้นนี้แล้ว"

เพื่อให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้นนั่นเอง

การมีรีวิวแย่ จึงเปรียบเสมือนการให้ในสิ่งที่ลูกค้ากำลังมองหา

(ข้อเสียของสินค้า) เมื่อลูกค้าได้(ข้อมูล)ไปแล้วเขาก็จะหยุดมองหา (ข้อเสียอื่นๆ)

ของสินค้าต่อไป และตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นนั่นเอง