Tanan UdomcharnDec 11, 20191 min readทดลองฟรี ฟรีจริงหรือ?"Free Trial" (ทดลองใช้ฟรี) ที่ไม่ได้ฟรีจริงๆ คำว่า "Free Trial" หรือ การทดลองใช้ฟรีเป็นเวลา 1 สัปดาห์ 1 เดือน หรืออื่นๆ เป็นคำที่พบเห็นได้บ่อยสำหรับสินค้าในยุคออนไลน์ทุกวันนี้ (เช่น ทดลองใช้โปรแกรมหรือแอพต่างๆฟรี หรือ ทดลองใช้ platform streaming หนัง ซีรีย์ หรือเพลงฟรี)แต่ทราบหรือไม้ว่า Free Trial นั้นแท้จริงแล้วมีต้นทุนที่ซ่อนอยู่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถช่วยสร้างมูลค่าหรือรายได้ให้บริษัท ที่เปิดให้ทดลองใช้ฟรีได้มากมายเลยทีเดียวครับ1. การเก็บข้อมูลผู้ใช้ในการให้ทดลองใช้ฟรีนั้นมักจะมีการลงทะเบียนข้อมูลผู้ใช้ก่อน ไม่ว่าจะเป็นการกรอกข้อมูล หรือการคลิกปุ่ม "ลงทะเบียนด้วยเฟสบุ๊ค" ที่ทำได้ง่ายๆ ข้อมูลที่บริษัทได้ไปเหล่านี้ยังอาจรวมถึงข้อมูลการใช้งาน ในระหว่างช่วงทดลองใช้ฟรี ซึ่งทำให้บริษัทสามารถวิเคราะห์ลักษณะนิสัย ความชอบของเรา แล้วนำข้อมูลเหล่านี้มาสร้างเป็นโฆษณาที่โดนใจเรา แล้วส่งมาหาเราตามอีเมล์ที่เราเคยให้ไว้ หรือโผล่มาในหน้าเฟสบุ๊ค ของเราเพื่อโน้มน้าวให้เราใจอ่อนยอมจ่ายเงินซื้อแอพ ซื้อโปรแกรม หรือยอมจ่ายค่าบริการรายเดือน (Subscription fee) ในที่สุด2. การตัดเงินจากบัตรเครดิตอัตโนมัตินอกจากข้อมูลผู้ใช้จะถูกเก็บระหว่างการลงทะเบียนแล้ว ข้อมูลบัตรเครดิตยังถูกขอจากผู้ให้บริการจำนวนไม่น้อย โดยมักจะมีข้อความตัวเล็กๆซ่อนอยู่ในที่ที่เรามองข้ามไปเขียนไว้ว่า "หลังจากหมดช่วงทดลองใช้ฟรีแล้ว บริษัทจะทำการตัดบัตรเครดิตอัตโนมัติ เพื่อชำระค่าบริการในเดือนต่อไปทันที" เป็นภาระสมองให้เราต้องมานั่งจำอีก ว่าต้องกด cancel free trial วันไหน ซึ่งถือเป็นต้นทุนอีกแบบหนึ่งที่เกิดกับผู้บริโภค3. ความขี้เกียจยกเลิกของผู้บริโภคนอกจากจะต้องจำได้ว่าจะต้องกดปุ่มยกเลิกการทดลองใช้ฟรีในวันไหนแล้ว ผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยยังต้องยอมแพ้ให้กับความสามารถในการซ่อนปุ่มยกเลิก ของผู้ให้บริการ ซึ่งส่วนใหญ่จะนำไปซ่อนไว้ลึกมาก ต้องกดปุ่มนั้นปุ่มนี้หลายขั้นตอน กว่าจะเจอปุ่มยกเลิก ผู้ใช้จำนวนไม่น้อยจึงยอมแพ้ไปก่อน และคิดว่า "ช่างมัน ขี้เกียจยกเลิกแล้ว ยอมจ่ายๆไปแล้วกัน เดือนละนิดๆหน่อยๆ ไหนๆ แอพนี้ก็ใช้ได้ค่อนข้างดี ก็เก็บไว้เลยแล้วกัน"4. ความกลัวการสูญเสีย (Loss Aversion)มีทฤษฏีทางจิตวิทยากล่าวไว้ว่า คนเรามักเห็นมูลค่าของสิ่งๆหนึ่ง ในตอนที่จะสูญเสียมันไป มากกว่าตอนที่ได้รับมันมา จึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ผู้ใช้เลือกที่จะเต็มใจจ่ายค่าบริการรายเดือนต่อ เพื่อเก็บแอพ หรือสิทธิ์ในการใช้ platform ต่างๆไว้นั่นเองครับ Written by: Tanan Udomcharn
"Free Trial" (ทดลองใช้ฟรี) ที่ไม่ได้ฟรีจริงๆ คำว่า "Free Trial" หรือ การทดลองใช้ฟรีเป็นเวลา 1 สัปดาห์ 1 เดือน หรืออื่นๆ เป็นคำที่พบเห็นได้บ่อยสำหรับสินค้าในยุคออนไลน์ทุกวันนี้ (เช่น ทดลองใช้โปรแกรมหรือแอพต่างๆฟรี หรือ ทดลองใช้ platform streaming หนัง ซีรีย์ หรือเพลงฟรี)แต่ทราบหรือไม้ว่า Free Trial นั้นแท้จริงแล้วมีต้นทุนที่ซ่อนอยู่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถช่วยสร้างมูลค่าหรือรายได้ให้บริษัท ที่เปิดให้ทดลองใช้ฟรีได้มากมายเลยทีเดียวครับ1. การเก็บข้อมูลผู้ใช้ในการให้ทดลองใช้ฟรีนั้นมักจะมีการลงทะเบียนข้อมูลผู้ใช้ก่อน ไม่ว่าจะเป็นการกรอกข้อมูล หรือการคลิกปุ่ม "ลงทะเบียนด้วยเฟสบุ๊ค" ที่ทำได้ง่ายๆ ข้อมูลที่บริษัทได้ไปเหล่านี้ยังอาจรวมถึงข้อมูลการใช้งาน ในระหว่างช่วงทดลองใช้ฟรี ซึ่งทำให้บริษัทสามารถวิเคราะห์ลักษณะนิสัย ความชอบของเรา แล้วนำข้อมูลเหล่านี้มาสร้างเป็นโฆษณาที่โดนใจเรา แล้วส่งมาหาเราตามอีเมล์ที่เราเคยให้ไว้ หรือโผล่มาในหน้าเฟสบุ๊ค ของเราเพื่อโน้มน้าวให้เราใจอ่อนยอมจ่ายเงินซื้อแอพ ซื้อโปรแกรม หรือยอมจ่ายค่าบริการรายเดือน (Subscription fee) ในที่สุด2. การตัดเงินจากบัตรเครดิตอัตโนมัตินอกจากข้อมูลผู้ใช้จะถูกเก็บระหว่างการลงทะเบียนแล้ว ข้อมูลบัตรเครดิตยังถูกขอจากผู้ให้บริการจำนวนไม่น้อย โดยมักจะมีข้อความตัวเล็กๆซ่อนอยู่ในที่ที่เรามองข้ามไปเขียนไว้ว่า "หลังจากหมดช่วงทดลองใช้ฟรีแล้ว บริษัทจะทำการตัดบัตรเครดิตอัตโนมัติ เพื่อชำระค่าบริการในเดือนต่อไปทันที" เป็นภาระสมองให้เราต้องมานั่งจำอีก ว่าต้องกด cancel free trial วันไหน ซึ่งถือเป็นต้นทุนอีกแบบหนึ่งที่เกิดกับผู้บริโภค3. ความขี้เกียจยกเลิกของผู้บริโภคนอกจากจะต้องจำได้ว่าจะต้องกดปุ่มยกเลิกการทดลองใช้ฟรีในวันไหนแล้ว ผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยยังต้องยอมแพ้ให้กับความสามารถในการซ่อนปุ่มยกเลิก ของผู้ให้บริการ ซึ่งส่วนใหญ่จะนำไปซ่อนไว้ลึกมาก ต้องกดปุ่มนั้นปุ่มนี้หลายขั้นตอน กว่าจะเจอปุ่มยกเลิก ผู้ใช้จำนวนไม่น้อยจึงยอมแพ้ไปก่อน และคิดว่า "ช่างมัน ขี้เกียจยกเลิกแล้ว ยอมจ่ายๆไปแล้วกัน เดือนละนิดๆหน่อยๆ ไหนๆ แอพนี้ก็ใช้ได้ค่อนข้างดี ก็เก็บไว้เลยแล้วกัน"4. ความกลัวการสูญเสีย (Loss Aversion)มีทฤษฏีทางจิตวิทยากล่าวไว้ว่า คนเรามักเห็นมูลค่าของสิ่งๆหนึ่ง ในตอนที่จะสูญเสียมันไป มากกว่าตอนที่ได้รับมันมา จึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ผู้ใช้เลือกที่จะเต็มใจจ่ายค่าบริการรายเดือนต่อ เพื่อเก็บแอพ หรือสิทธิ์ในการใช้ platform ต่างๆไว้นั่นเองครับ Written by: Tanan Udomcharn
