Tanan UdomcharnFeb 3, 20201 min readทำไมคนเราจึงเสพติด?Updated: May 2, 2021คนเราทุกคนมักมีสิ่งที่เราชอบแล้วเลิกทำไม่ได้ เช่น ติดเกมส์ ติดแฟน ติด social network หรือติดอะไรต่อมิอะไรอีกมากมายคำถามคือทำไมมนุษย์เราจึงเสพติด กระบวนการเสพติดเกิดขึ้นได้อย่างไร ในวันนี้ Marketing Everyday จะพาคุณไปรู้จักกับ "The Hook" ทฤษฏีว่าด้วยกระบวนการเสพติดของมนุษย์ที่คุณสามารถนำไปใช้ เพื่อทำให้ลูกค้าเสพติดสินค้าของคุณได้เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจ เราจะอธิบายโดยยกตัวอย่าง "การเสพติดการลงรูปในอินสตาแกรม" เป็นกรณีศีกษาครับ Step 1: Trigger (การกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมที่ต้องการ) - แบรนด์มักใช้สื่อโฆษณาต่างๆ ปุ่ม call for action หรือ push notification ในการกระตุ้นนี้ให้เกิดพฤติกรรม- Trigger ยังอาจเป็นการที่คนๆ หนึ่งเห็นเพื่อนสนิทหลายคน ชอบลงรูปในอินสตาแกรมเลยอยากทำตามก็ได้ Step 2: Action (พฤติกรรมของผู้บริโภคที่แบรนด์ต้องการ) - แบรนด์สามารถช่วยให้ Step นี้เกิดขึ้นได้ด้วยการลดอุปสรรคในการทำ Action ของผู้บริโภค เช่น ทำให้ปุ่มลงรูปกดได้ง่ายมีขนาดพอเหมาะ มองเห็นได้ชัดเจน หาไม่ยาก- Action ในกรณีนี้ก็คือการลงรูปนั่นแล่ะ Step 3: Reward (ให้รางวัลสำหรับ Action ที่ทำลงไป) - แบรนด์จะให้รางวัลสำหรับการกระทำของผู้บริโภค โดยรางวัลนั้น ควรจะต้องมีองค์ประกอบของความน่าตื่นเต้นอยู่ด้วย เช่น รางวัลที่ให้แต่ละครั้งไม่ซ้ำกัน เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้บริโภคเกิดความเบื่อหน่าย- Reward ในกรณีนี้อาจเป็นการได้รับ Likes จาก follower ในอินสตาแกรม Step 4: Investment - เมื่อผู้บริโภคได้รับรางวัลก็จะเริ่มติดใจ และจะเริ่มลงทุนเพื่อให้ได้รับรางวัลอีกครั้ง- Investment ในกรณีนี้เช่น เริ่มถ่ายรูป แต่งรูปมากขึ้น follow คนอื่นๆมากขึ้น (หวังให้เค้า follow กลับ) หรืออื่นๆที่จะช่วยเพิ่มยอด like ในอนาคตหลังจากนั้นก็จะวนกลับไปที่ Step 1 เพียงแต่คราวนี้เป็นตัวผู้บริโภคเอง ที่ trigger ตัวเอง ด้วยความต้องการของตัวเอง >> แล้วผู้บริโภคก็จะทำ Action ใน step 2 >> ได้รับรางวัลใน step 3 วนเป็นลูปแบบนี้ไปเรื่อยๆจนเกิดอาการเสพติดนั่นเอง*ถึงแม้ผู้บริโภคจะเริ่ม trigger ตนเองแล้วก็ตาม แบรนด์ยังควรที่จะช่วยสร้าง trigger ต่อไปเพื่อเพิ่มโอกาสในการเกิด Action ได้ง่ายขึ้นครับ เพียงแค่ 4 steps ง่ายๆแค่นี้ คุณก็สามารถทำให้ผู้บริโภค "เสพติด" การใช้สินค้า/บริการของคุณได้แล้วครับอย่าลืม tag เพื่อนที่ "เสพติด" อะไรบางอย่างให้มาอ่านกันนะครับ แล้วก็ลองคิดดูเล่นๆด้วยว่า สิ่งที่คุณเสพติดอยู่ตอนนี้ เป็นเพราะมีอะไรมา trigger คุณบ้าง? อะไรคือ reward? และคุณ invest อะไรให้กับมันไปบ้างครับ? Written by Tanan Udomcharn
คนเราทุกคนมักมีสิ่งที่เราชอบแล้วเลิกทำไม่ได้ เช่น ติดเกมส์ ติดแฟน ติด social network หรือติดอะไรต่อมิอะไรอีกมากมายคำถามคือทำไมมนุษย์เราจึงเสพติด กระบวนการเสพติดเกิดขึ้นได้อย่างไร ในวันนี้ Marketing Everyday จะพาคุณไปรู้จักกับ "The Hook" ทฤษฏีว่าด้วยกระบวนการเสพติดของมนุษย์ที่คุณสามารถนำไปใช้ เพื่อทำให้ลูกค้าเสพติดสินค้าของคุณได้เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจ เราจะอธิบายโดยยกตัวอย่าง "การเสพติดการลงรูปในอินสตาแกรม" เป็นกรณีศีกษาครับ Step 1: Trigger (การกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมที่ต้องการ) - แบรนด์มักใช้สื่อโฆษณาต่างๆ ปุ่ม call for action หรือ push notification ในการกระตุ้นนี้ให้เกิดพฤติกรรม- Trigger ยังอาจเป็นการที่คนๆ หนึ่งเห็นเพื่อนสนิทหลายคน ชอบลงรูปในอินสตาแกรมเลยอยากทำตามก็ได้ Step 2: Action (พฤติกรรมของผู้บริโภคที่แบรนด์ต้องการ) - แบรนด์สามารถช่วยให้ Step นี้เกิดขึ้นได้ด้วยการลดอุปสรรคในการทำ Action ของผู้บริโภค เช่น ทำให้ปุ่มลงรูปกดได้ง่ายมีขนาดพอเหมาะ มองเห็นได้ชัดเจน หาไม่ยาก- Action ในกรณีนี้ก็คือการลงรูปนั่นแล่ะ Step 3: Reward (ให้รางวัลสำหรับ Action ที่ทำลงไป) - แบรนด์จะให้รางวัลสำหรับการกระทำของผู้บริโภค โดยรางวัลนั้น ควรจะต้องมีองค์ประกอบของความน่าตื่นเต้นอยู่ด้วย เช่น รางวัลที่ให้แต่ละครั้งไม่ซ้ำกัน เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้บริโภคเกิดความเบื่อหน่าย- Reward ในกรณีนี้อาจเป็นการได้รับ Likes จาก follower ในอินสตาแกรม Step 4: Investment - เมื่อผู้บริโภคได้รับรางวัลก็จะเริ่มติดใจ และจะเริ่มลงทุนเพื่อให้ได้รับรางวัลอีกครั้ง- Investment ในกรณีนี้เช่น เริ่มถ่ายรูป แต่งรูปมากขึ้น follow คนอื่นๆมากขึ้น (หวังให้เค้า follow กลับ) หรืออื่นๆที่จะช่วยเพิ่มยอด like ในอนาคตหลังจากนั้นก็จะวนกลับไปที่ Step 1 เพียงแต่คราวนี้เป็นตัวผู้บริโภคเอง ที่ trigger ตัวเอง ด้วยความต้องการของตัวเอง >> แล้วผู้บริโภคก็จะทำ Action ใน step 2 >> ได้รับรางวัลใน step 3 วนเป็นลูปแบบนี้ไปเรื่อยๆจนเกิดอาการเสพติดนั่นเอง*ถึงแม้ผู้บริโภคจะเริ่ม trigger ตนเองแล้วก็ตาม แบรนด์ยังควรที่จะช่วยสร้าง trigger ต่อไปเพื่อเพิ่มโอกาสในการเกิด Action ได้ง่ายขึ้นครับ เพียงแค่ 4 steps ง่ายๆแค่นี้ คุณก็สามารถทำให้ผู้บริโภค "เสพติด" การใช้สินค้า/บริการของคุณได้แล้วครับอย่าลืม tag เพื่อนที่ "เสพติด" อะไรบางอย่างให้มาอ่านกันนะครับ แล้วก็ลองคิดดูเล่นๆด้วยว่า สิ่งที่คุณเสพติดอยู่ตอนนี้ เป็นเพราะมีอะไรมา trigger คุณบ้าง? อะไรคือ reward? และคุณ invest อะไรให้กับมันไปบ้างครับ? Written by Tanan Udomcharn
Comments