top of page

ลมหายใจของแบรนด์ คือสิ่งที่นักการตลาดต้องหมั่นเติม


ซื้อรถ 'Tamiya คันแรก'ในชีวิตตอนอายุ 29 ปี

ย้อนกลับไปมากกว่า 15 ปีที่แล้ว ตอนอยู่เซนต์คาเบรียลเห็นเพื่อนเล่นรถแข่ง Tamiya กัน ชอบดูเพื่อนเล่น แต่ก็ไม่ได้คิดจะซื้อ เพราะขี้เกียจต่อ ถึงแม้จะเดินผ่านร้านขายของเล่นทุกวันตอนอยู่โรงเรียน เช่น ร้านเจ้ลี หรือ เจริญชัย ก็ยังเอาเงินจากกระเป๋าเราไม่ได้ แต่ไปเสียแผ่นเกมส์Copy 20 บาท เล่นเกมส์ Tamiya ใน Play Station 1 แล้วสนุกมาก

เห็นฮิตอยู่ปีสองปี เพื่อนเริ่มเปลี่ยนมาเล่น ลูกข่างที่ชนๆ (ก็ไม่เคยซื้อ ยังชอบดูเพื่อนเล่นเหมือนเดิม) แล้วก็ตามมาด้วยการ์ด Summonner มาแทนที่ สุดท้ายงานอดิเรกของเล่นชีวิตในวัยเด็กมาจบด้วย Ragnarok, เกมส์รถยิงๆ (จำชื่อไม่ได้) และ DotA

ผ่านไป15ปีเสียตังให้ Tamiya จนได้ เพราะอารมณ์ล้วนๆ เดินผ่านร้านของเล่นที่ญี่ปุ่น อยู่ดีๆความทรงจำในวัยเด็กแว้บขึ้นมา เลยเดินไปหยิบขึ้นมาดูครั้งแรกในชีวิต ดูไปดูมาอารมณ์ครอบงำ เลยเสียตังไป 680 เยน

แบรนด์ถ้าไม่มีลมหายใจก็จะตาย ลมหายใจของแบรนด์คือ ให้คนเห็นบ่อยๆ, มีVariationให้คนมีโอกาสใช้เยอะๆ และทำให้คนเข้าถึงได้ ตรายใดที่แบรนด์ยังมีลมหายใจก็จะมีความหวัง เหมือนรถTamiya (โดนMarketing ไปไม่รู้เท่าไร ถึงจะเปลี่ยนเป็น Call to action ได้)

กลับมาดูแบรนด์ที่ตัวเองปั้น ถ้าลมหายใจแบรนด์จะหมด เติมๆให้หน่อยน่าจะดี วิธีเติมก็มีหลายวิธี เช่น Lego Case Study ที่ออก Lego Movie และ ไป co กับกระแสอื่นตลอดเวลา

ถ้าสมองใช้เหตุผลเยอะๆเงินในกระเป๋าจะไม่ออก นักการตลาดเลยต้องปลุกสมองด้านอารมณ์

Nostalgia Marketing โดย: Kenny Kanawat


bottom of page